ร้อยไหมจมูก
ร้อยไหมจมูกเป็น 1 ในวิธีการยอดนิยมในการทำให้จมูกโด่งแบบไม่ต้องใช้ซิลิโคน ไม่ต้องศัลยกรรม เป็นทางเลือกการเสริมจมูกแบบนึงที่มีความปลอดภัยสูง

เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่กลัวการเสริมซิลิโคน กลัวเบี้ยว เอียง ทะลุ อักเสบ
- ผู้ที่เนื้อน้อยปลายบาง ไม่สามารถเสริมซิลิโคนได้
- ผู้ที่ต้องการเสริมปลายจมูกให้เชิดขึ้น
- ผู้ที่มีกระดูกฮั้มพ์

ร้อยไหมจมูก หรือการฉีดไหมจมูก เป็น การใช้เส้นไหมละลายชนิด PDO หรือ PCL ร้อยเข้าไปเสริมบนสันจมูกทำให้สันและดั้งจมูกดูเด่นชัดขึ้น ใช้เวลาทำไม่นาน บวมช้ำน้อย โดยไหมที่ใช้จะมีขนาดยาว สั้น เล็กหรือใหญ่ต่างกันตามรูปแบบการใช้งาน โดยไหมเส้นใหญ่จะเหมาะกับการร้อยเสริมบริเวณสันจมูกและไหมเส้นเล็กจะเหมาะกับการเก็บรายละเอียดและการเสริมปลายจมูกให้เชิดขึ้น แต่ทั้งนี้การร้อยไหมจมูกจะไม่สามารถเสริมความโด่งได้มากเท่ากับการเสริมจมูกแบบซิลิโคน เหมาะกับคนที่มีดั้งอยู่เล็กน้อยและสันจมูกกว้างที่ต้องการเสริมให้สันและดั้งจมูกดูเรียวเล็กลงและเด่นชัดขึ้น หรือผู้ที่ต้องการให้ปลายจมูกดูดีดหรือทรงเชิดมากขึ้น หรืออีกกรณี ต้องการให้จมูกที่ทำออกมาทรงเป็นธรรมชาติครับ

ข้อดี ร้อยไหมจมูก หรือฉีดไหมเทคนิค Nose Lock ที่ คลินิกสนามบินน้ำ
- ไม่ต้องพักฟื้น แผลเล็กเพียง 0.1 มม.
- เทคนิคเฉพาะด้วยแพทย์ประสบการณ์สูง
- เหมาะกับผู้ที่กลัวการผ่าตัด
- สามารถเสริมความคมชัดของสันจมูกและทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นได้
- เป็นการกระตุ้นเนื้อเยื่อ และการสร้างคอลลาเจนในผิวของ แม้ไหมสลายไป แต่จมูกก็ยังโด่งได้รูป
- สามารถเสริมความคมชัดของสันจมูกและทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นได้
- มีความปลอดภัยสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูก เนื่องจากไหมสามารถละลายได้
- ไม่เสี่ยง เบี้ยว เอียงทะลุ ในกรณีที่เนื้อน้อย ไม่ต้องกลับไปแก้ซ้ำๆ
- สามารถทำให้ปีกจมูกและปลายจมูกแคบลงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
- สามารถแก้ในกรณีฮัมพ์

ข้อสังเกตเพิ่มเติม
ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจมูกนั้น ปัจจุบันมีอายุอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 18 – 24 เดือน โดยหลังจากไหมละลายไปแล้วสันจมูกอาจไม่คมชัดเท่าก่อนไหมจะละลายไป แต่อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ยังไม่ละลายนั้น เส้นไหมจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาเสริมบริเวณนั้นอย่างถาวรทำให้หลังจากไหมละลายไปแล้ว ความคมชัดของจมูกจะไม่หายไปหมด ยังดูชัดกว่าตอนก่อนทำนั่นเองครับ
นี่คือเหตุผลที่ผู้ที่ร้อยไหมจมูกอยู่เรื่อยๆ จะทำให้รูปร่างของจมูกเปลี่ยนไปได้ครับ ปัจจุบันในคลินิกสนามบินน้ำ มีเคสที่มีฮัมพ์สูงเข้ามารับบริการการร้อยไหมต่อเนื่องจนตอนนี้สันจมูกตรงขึ้น ไม่หักงออย่างก่อนทำอยู่พอสมควรครับ


แต่ในกรณีสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีสันจมูก การร้อยไหมจมูกอาจไม่สามารถร้อยได้มากพอที่จะทำให้โครงจมูกโด่งสวยได้ในครั้งเดียวเหมือนการผ่าตัดเสริมจมูก เนื่องจากการร้อยไหมแต่ละครั้งสามารถร้อยได้จำนวนจำกัด เพราะหากร้อยไหมจำนวนมากเกินไปอาจทำให้เกิดการกระตุ้นเส้นใย Elastin มากเกินส่งผลให้กลายเป็นผังผืดดึงรั้งจมูกได้นั่นเองครับ โดยปกติแล้ว หมอจึงจะแนะนำเคสลักษณะนี้ให้ร้อยไหมครั้งละ 4-6 เส้นใหญ่และหากคนไข้ต้องการให้สันจมูกเด่นชัดขึ้นอีกให้มาร้อยไหมอีกครั้งหลังจากครั้งแรก 6 เดือน เนื่องจากหลังจาก 6 เดือนแล้วการกระตุ้นเนื้อเยื่อของไหมชุดแรกนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว การร้อยไหมเพิ่มเข้าไปจึงปลอดภัยไม่ทำให้เกิดการกระตุ้นผังผืดขึ้นนั่นเองครับ
ขั้นตอนการร้อยไหมจมูกมีดังนี้
1. ผู้ช่วยแพทย์จะทำการเก็บผม เช็ดหน้า ให้สะอาด เพื่อปราศจากเชื่อโรค
2. แพทย์จะทำหารกำหนดจุดที่ต้องการจะร้อยไหม
3. ฉีดยาชาและเปิดแผล
4. แพทย์ทำการวางเส้นไหม
5. ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
6. หลังจากแพทย์วางเส้นไหมเสร็จผู้ช่วยจะทำการห้ามเลือดและปิดแผลเป็นอันเสร็จสิ้น


การสังเกตุการโฆษณาเกินจริงขั้นต้น ร้อยไหมถูกเกินไป...ดีจริงหรือ?
โดยปกติราคาของการร้อยไหมจมูกจะถูกจำกัดอยู่ที่ต้นทุนที่คลินิกต้องแบกรับในการให้บริการ เช่น ค่าไหม ค่ายาชา ค่ายารับประทาน ค่าพนักงาน ฯลฯ ครับ ราคาที่เหมาะสมต่อการร้อยไหมจมูกที่เห็นผลได้ดี 1 ครั้งจึงไม่ควรต่ำกว่า 5,000 บาทมากนัก ถ้าหากที่ไหนโฆษณาราคาต่ำมากๆโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ให้คุณคำนึงว่า เขาสามารถทำราคาต่ำลงมาแบบนั้นได้ด้วยวิธีใด อาทิเช่น การลดคุณภาพของวัสดุที่ใช้ การลดจำนวนเส้นไหมรวมไปถึงการใช้เส้นไหมที่ไม่ตรงกับการโฆษณา (ใช้ไหมเส้นเล็กในขณะที่ตกลงกันไว้ว่าจะใช้ไหมเส้นใหญ่) เป็นต้นครับ
Promotion "โปรโมชั่น ร้อยไหมจมูก ราคาสุดคุ้ม"







ปรึกษาคุณหมอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมทักได้เลยค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

เพื่อที่จะให้เห็นผลได้ชัดเจน แพทย์จะแนะนำให้ร้อยอย่างน้อย 4 เส้น หรือมากกว่าได้ตามการประเมินของแพทย์ โดยจะต้องใช้ไหมเส้นใหญ่เท่านั้น ถ้าใช้ไหมเส้นเล็กจะต้องทำอย่างน้อย 20-30 เส้น จึงจะเริ่มเห็นผล
โดยปกติราคาของการร้อยไหมจมูกจะถูกจำกัดอยู่ที่ต้นทุนที่คลินิกต้องแบกรับในการให้บริการ เช่น ค่าไหม ค่ายาชา ค่ายารับประทาน ค่าพนักงาน ฯลฯ ครับ ราคาที่เหมาะสมต่อการร้อยไหมจมูกที่เห็นผลได้ดี 1 ครั้งจึงไม่ควรต่ำกว่า 5,000 บาทมากนัก ถ้าหากที่ไหนโฆษณาราคาต่ำมากๆโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ให้คุณคำนึงว่า เขาสามารถทำราคาต่ำลงมาแบบนั้นได้ด้วยวิธีใด อาทิเช่น การลดคุณภาพของวัสดุที่ใช้ การลดจำนวนเส้นไหมรวมไปถึงการใช้เส้นไหมที่ไม่ตรงกับการโฆษณา (ใช้ไหมเส้นเล็กในขณะที่ตกลงกันไว้ว่าจะใช้ไหมเส้นใหญ่) เป็นต้นครับ
หน้าที่ของคลินิกที่ดีควรเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการบริการทางการแพทย์เพื่อให้คุณเลือกบริการที่เหมาะสมกับผลลัพธ์ที่คุณต้องการมากที่สุด และมีความพร้อมที่จะดูแลคุณไปจนจบขั้นตอนการรักษาและติดตามผล สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงระหว่างที่เลือกใช้บริการใดๆกับคลินิกคือ ความปลอดภัย คลินิกควรมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีการดูแลรักษาความสะอาดอย่างดี ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเป็นไปตามที่โฆษณา
ไหมที่ใช้ในการทำหัตถการร้อยไหมจมูกนั้นมีอยู 3 วัสดุหลักๆด้วยกัน คือ PDO PCL และ PLLA (เรียงตามนวัตกรรมจากเก่าไปใหม่) โดยไหม PDO นั้นจะมีอายุอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 12-16 เดือนส่วน PCL และ PLLA นั้นมีอายุประมาณ 16-24 เดือน โดยจุดเด่นของไหม PCL คือความยืดหยุ่นที่สูงส่วน PLLA จะมีจุเด่นคือความแข็ง (แต่ขาดง่าย) ปัจจุบันจึงเริ่มมีการผลิตไหม PCL ที่มีส่วนผสมของ PLLA อยู่ด้วย จึงทำให้ไหม PCL PLLA นั้นเป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
การร้อยไหมจมูกโดยผู้ที่ไม่ชำนาญซ้ำกันหลายครั้งสามารถทำให้จมูกโตขึ้นได้จากการกระตุ้นเนื้อเยื่ออย่างไม่เหมาะสมครับ
การร้อยไหมจมูกสามารถทำให้เกิดผังผืดได้จริง หากร้อยไหมจำนวนมากเกินไป (ไหมเส้นเล็กเกิน 60 เส้น ไหมเส้นใหญ่เกิน 10 เส้น) เพราะจำนวนเส้นไหมที่เยอะอาจทำให้เกิดการกระตุ้นเส้นใย Elastin มากเกินส่งผลให้กลายเป็นผังผืดดึงรั้งจมูกได้นั่นเองครับ โดยปกติแล้ว หมอจึงจะแนะนำเคสที่มีสันและดั้งจมูกน้อยที่ต้องการเสริมเยอะๆให้ทำศัลยกรรมเสริมจมูกหรือหากกลัวการผ่าตัด หมอจะแนะนำให้ร้อยไหมครั้งละ 4-6 เส้นใหญ่และหากคนไข้ต้องการให้สันจมูกเด่นชัดขึ้นอีกให้มาร้อยไหมอีกครั้งหลังจากครั้งแรก 6 เดือน เนื่องจากหลังจาก 6 เดือนแล้วการกระตุ้นเนื้อเยื่อของไหมชุดแรกนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้วนั่นเองครับ
Load More
ความรู้สึกหลังทำเสร็จและการปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมจมูก
1. รู้สึกตึงบริเวณสันจมูก และอาจจีรอยช้ำได้เล็กน้อยบริเวณสันจมูก
2 หลังจากทำให้ระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำเนเวลา 24 ชม
3. ทำแผลด้วยการทาเบตาดีนเช้าเย็น
4. ระวังการกดทับบริเวณไหม การบิดการกดต่าง ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
5. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 2 วันเพื่อลดโอกาสการช้ำ