ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก ลดสัดส่วน 

การปฏิบัติตัวเบื้องต้นของการทานยาลดน้ำหนัก

การลดน้ำหนักของคลินิกสนามบินน้ำ จะมีการใช้ยา โดยมียาทั้งหมด 11 ระดับแบ่งตามความแรง 

โดยระหว่างที่ทานยา จะให้ทานอาหารทั้ง 3 มื้ออย่างปกติเพื่อป้องกันอาการข้างเคียง หากทานอาหารร่วมด้วยจะไม่มีผลข้างเคียง 

รับประทานยาให้สม่ำเสมอตามเวลา รับประทานอาหารได้ครบทุกมื้อไม่ต้องอด โดยปรับสัดส่วนของอาหารให้พยายามทานแป้งให้น้อยที่สุดในช่วงเย็น โดยเน้นทานอาหารที่เป็นกับข้าวที่ไม่มัน ไม่มีกะทิ จนอิ่มได้ในช่วงเย็น และควรทานห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 2 ถึง 4 ชั่วโมง จะได้ไม่สะสมเป็นไขมันนั้นเอง

ระหว่างการรับประทานยาคลินิกสนามบินน้ำ ขอแนะนำให้ออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 50-60 นาที เพื่อช่วยเสริมการเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น และเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวม เช่นการเดินวันละ 10,000 เก้าเป็นต้น 

ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่รับประทานยาลดน้ำหนัก เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ยาได้ผลน้อยลงมาก หลีกเลี่ยงผลไม้หวาน น้ำหวาน กาแฟเย็น กาแฟสด น้ำอัดลม เพราะจะทำให้ไขมันสะสมขึ้นใหม่ได้อย่างเร็ว 

ยามื้อแรกเป็นยาก่อนอาหารกลางวัน ให้รับประทานยาก่อนอาหารประมาณ 10 นาที ไม่ควรนานเกินกว่านั้น เพราะอาจทำให้เวียนศีรษะได้ ส่วนยาก่อนอาหารเย็น ควรรับประทานก่อนอาหารประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง 

เมื่อลดน้ำหนักได้ผลเป็นที่พอใจแล้วควรจะต้องรับประทานยาชุดหยุดหรือ “ยาหยุด” เป็นชุดสุดท้ายก่อนจะเลิกทานยาเสมอเพื่อป้องกันน้ำหนักขึ้น หรือ โยโย่ 

การลดน้ำหนักที่ได้ผลดี และไม่รบกวนสุขภาพ ควรจะลดได้ประมาณ 1 ถึง 1.5 กิโลกรัม ต่อ 2 สัปดาห์ 

**ในระหว่างที่รับประทานยาลดน้ำหนักหากมีอาการใจสั่น นอนไม่หลับ หรือรู้สึกว่ายาแรงไปขอให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อปรึกษาแพทย์เสมอ***

ในกรณีที่ต้องการลดสัดส่วนเฉพาะจุด 

แนะนำ เมโสแฟตลดเฉพาะจุด ในบริเวณที่ลดยาก เช่นบริเวณต้นแขน ต้นขา พุง รอบเอว บริเวณหลัง และบริเวณสะโพก 

เทคนิคเมโสแฟตที่ คลินิกสนามบินน้ำ 

• แพทย์วิเคราะห์รูปร่างรายเคส 
• แพทย์ให้คำแนะนำบริเวณที่ฉีดและปริมาณที่ฉีด 
• ตัวยาเห็นผลลัพธ์ไว และ ผลลัพธ์ชัดเจน 
• ไม่แสบ ไม่บวม 

ความรู้สึกหลังทำเสร็จและการปฏิบัติตัวหลังฉีดเมโสแฟต

1. รู้สึกตึงๆบริเวณที่ฉีด 1-2 ชม.

2. หลังจากทำแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อเพิ่มความสามารถของการละลายไขมัน

3. นวดคลึงเป็นวงกลมบริเวณที่ฉีดเพื่อการกระจายและเพิ่มการดูดซึมของยา

4. ระวังไม่ให้น้ำหนักเพิ่มถึง 2 กิโลเพื่อคงผลการรักษาให้ได้นานที่สุด

5. สามารถกลับมาทำซ้ำได้ทุก 1 สัปดาห์